วันอังคารที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2555


พืชสมุนไพร




พืชสมุนไพร ประเภท สมุนไพรแก้มะเร็ง

           สมุนไพรเป็นสิ่งที่อยู่คู่คนไทยมานับพันปี แต่เมื่อการแพทย์แผนปัจจุบันเริ่มเข้ามามีบทบาทในบ้านเรา สรรพคุณและคุณค่าของสมุนไพรอันเป็นสิ่งที่เรียกได้ว่าภูมิปัญญาโบราณก็เริ่มถูกบดบังไปเรื่อยๆ  และถูกทอดทิ้งไปในที่สุด

          ความจริงคนส่วนใหญ่ก็พอรู้ๆ กันว่า สมุนไพรไทยเป็นสิ่งที่มีคุณค่าใช้ประโยชน์ได้จริง และใช้ได้อย่างกว้างขวาง แต่เป็นเพราะว่าเราใช้วิธีรักษาโรคแผนใหม่มานานมากจนวิชาแพทย์แผนโบราณที่มีสมุนไพรเป็นยาหลักถูกลืมจนต่อไม่ติด
         ภาครัฐเริ่มกลับมาเห็นคุณค่าของสมุนไพรไทยอีกครั้งด้วยการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาไว้เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2535 ว่า  " ให้มีการผสมผสานการแพทย์แผนไทยและสมุนไพรเข้ากับระบบบริการสาธารณสุขของชุมชนอย่างเหมาะสม"

กระเบา กระเบา

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Chaulmoogra, Hydnoccarpus anthelminthicus Pierre
ชื่อวงศ์ : FLACOURTIACEAE
ชื่ออื่น : กระเบาน้ำ, กระเบาเบ้าแข็ง, กระเบาใหญ่, กาหลง, เบา

รูปลักษณะ : กระเบา เป็นไม้ยืนต้น สูง 10-20 เมตร ใบเดี่ยว เรียงสลับ รูปขอบขนาน กว้าง 3-6 ซม. ยาว 10-12 ซม. ดอกเดี่ยวหรือช่อสั้นๆ ออกที่ซอกใบ แยกเพศอยู่คนละต้น ต้นตัวเมียเรียกว่า กระเบาต้นตัวผู้ เรียกว่าแก้วกาหลง กลีบดอกสีม่วงแดงจางๆ ผลเป็นผลสด รูปกลม เปลือกหนา มีขนกำมะหยี่สีน้ำตาล มีเมล็ดจำนวนมาก

สรรพคุณของ กระเบา : เมล็ด ใช้น้ำมันที่บีบจากเมล็ด รักษาโรคเรื้อน และโรคผิวหนังอื่นๆ มีรายงานวิจัยว่าน้ำมันที่บีบจากเมล็ดโดยไม่ใช้ความร้อน มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อโรคเรื้อนและวัณโรค

ข่อย

ข่อย

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Siamese Rough Bush, Tooth Brush Tree, Streblus aspera Lour.
ชื่อวงศ์ : MORACEAE
ชื่ออื่น : กักไม้ฝอย, ส้มพอ

รูปลักษณะ : ข่อย เป็นไม้ยืนต้น มีน้ำยางขาว สูง 5-15 เมตร ใบเดี่ยว เรียงสลับ รูปไข่แกมขอบขนาน รูปวงรี หรือรูปไข่กลับ กว้าง 2-4 ซม. ยาว 4-8 ซม. ผิวใบสากคาย ดอกช่อ ออกที่ซอกใบ แยกเพศอยู่คนละต้น ช่อดอกตัวผู้เป็นช่อกลม ช่อดอกตัวเมียออกเป็นกระจุกมี 2-4 ดอกย่อย กลีบดอกสีเหลือง ผลสด รูปไข่ เมื่อสุกสีเหลือง

สรรพคุณของ ข่อย : เปลือกต้น แก้โรคผิวหนัง รักษาแผล หุงเป็นน้ำมันทารักษาริดสีดวงทวาร รักษารำมะนาด แก้ท้องร่วง เมล็ด ผสมกับหัวแห้วหมู เปลือกทิ้งถ่อน เปลือกตะโกนา ผลพริกไทยแห้งและเถาบอระเพ็ด ดองเหล้าหรือต้มน้ำดื่ม เป็นยาอายุวัฒนะ


ทองพันชั่ง

ทองพันชั่ง

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Rhinacanthus nasutus (Linn.) Kurz.
ชื่อวงศ์ : ACANTHACEAE
ชื่ออื่น : ทองคันชั่ง, หญ้ามันไก่

รูปลักษณะ : ทองพันชั่ง เป็นไม้พุ่ม สูง 1-2 เมตร กิ่งอ่อนมักเป็นสันสี่เหลี่ยม ใบเดี่ยว เรียงตรงข้าม รูปไข่หรือรูปวงรี กว้าง 2-4 ซม. ยาว 4-8 ซม. ดอกช่อ ออกที่ซอกใบ กลีบดอกสีขาว โคนกลีบติดกันเป็นหลอด ปลายแยกเป็น 2 ปาก ปากล่างมีจุดสีม่วงแดง ผลแห้ง แตกได้

สรรพคุณของ ทองพันชั่ง : ใบสด, ราก ใช้ใบสดและรากโขลกละเอียด แช่เหล้าโรง 1 สัปดาห์ เอาน้ำเหล้าทาแก้กลากเกลื้อน สารสำคัญ คือ Rhinacanthin และ Oxymethylanthraquinone


พญาสัตบรรณ

พญาสัตบรรณ

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Blackboard Tree, Devil Tree, Alstonia scholaris (Linn.) R. Br.
ชื่อวงศ์ : APOCYNACEAE
ชื่ออื่น : สัตบรรณ, ตีนเป็ด, ตีนเป็ดขาว, ชบา, ยางขาว, หัสบรรณ

รูปลักษณะ : พญาสัตบรรณ เป็นไม้ยืนต้น สูงถึง 30 เมตร เปลือกต้นสีเทา มียางขาวมาก กิ่งแตกออกรอบข้อ ใบเดี่ยว เรียงรอบข้อๆ ละ 6-9 ใบ รูปขอบขนานแกมใบหอกกลับหรือรูปไข่กลับ กว้าง 2-6 ซม. ยาว 5-18 ซม. ปลายทู่กลม หรือเว้าเล็กน้อย ดอกช่อ ออกเป็นกระจุกที่ปลายกิ่ง กลีบดอกสีขาว แกมเหลือง ผลเป็นฝักออกเป็นคู่ รูปกลมยาว

สรรพคุณของ พญาสัตบรรณ : เปลือกต้น ใช้แก้ไข้หวัด หลอดลมอักเสบ แก้บิด สมานลำไส้ การทดลองในสัตว์พบว่า สารสกัดจากเปลือกต้น มีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือด รักษาแผลเรื้อรัง และต้านเชื้อแบคทีเรียบางชนิด


ราชดัด

ราชดัด

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Brucea javanica (Linn.) Merr.
ชื่อวงศ์ : SIMAROUBACEAE
ชื่ออื่น : กระดัด, ฉะดัด, กาจับหลัก, เท้ายายม่อมน้อย, มะดีความ, ดีคน, พญาดาบหัก

รูปลักษณะ : ราชดัด เป็นไม้พุ่ม สูง 2-4 เมตร ใบประกอบแบบขนนก เรียงสลับเวียนรอบกิ่ง ใบย่อย รูปไข่แกมใบหอก กว้าง 3-6 ซม. ยาว 5-10 ซม. ขอบใบหยัก ผิวใบมีขนนุ่มทั้งสองด้าน ดอกช่อ ออกที่ซอกใบ แยกเพศ มีต้นที่พบเฉพาะช่อดอกตัวผู้ และต้นที่มีทั้งดอกตัวผู้ และดอกตัวเมียในช่อเดียวกัน ดอกย่อยมีขนาดเล็ก สีน้ำตาลแดง มีขนปกคลุม ผลเป็นผลสด เมื่อแห้งมีสีน้ำตาลดำ คล้ายเมล็ดมะละกอแห้ง

สรรพคุณของ ราชดัด : ผล ผลแห้งบำรุงน้ำดี แก้ไข้ และแก้บิด เมล็ด ยับยั้งการเจริญของมาลาเรียชนิด ฟัลซิพารัม และเชื้อบิดในหลอดทดลอง แต่พบความเป็นพิษสูง


สะบ้าลิง

สะบ้าลิง

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Mucuna gigantea (Willd.) DC.
ชื่อวงศ์ : FABACEAE
ชื่ออื่น : กระเจี๊ยบ, หมามุ้ย

รูปลักษณะ : สะบ้าลิง เป็นไม้เถาเลื้อยพัน ยาว 5-15 เมตร ใบประกอบแบบขนนก มีใบย่อย 3 ใบ เรียงสลับ ใบย่อยรูปไข่แกมวงรี กว้าง 5-9 ซม. ยาว 9-16 ซม. ดอกช่อกระจะ ออกที่ซอกใบ ห้อยลงกลีบดอกสีเหลืองแกมเขียว รูปดอกถั่ว ผลเป็นฝัก สีดำมีขนสีน้ำตาลอ่อน ปกคลุมหนาแน่น เมล็ดแข็งสีน้ำตาลอ่อนมีลาย

สรรพคุณของ สะบ้าลิง : เปลือก, ต้น มีสารกลุ่มซาโปนิน ใช้ล้างแผล สระผม, นำมาต้มน้ำผสมเกลือ อมแก้ปวดฟัน เมล็ด เผา บดเป็นผงผสมกับน้ำมันมะพร้าว ทาแก้คัน และโรคผิวหนัง


หญ้าปักกิ่ง

หญ้าปักกิ่ง

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Murdannia loriformis (Hassk.) Rolla Rao et Kammathy
ชื่อวงศ์ : COMMELINACEAE

รูปลักษณะ : หญ้าปักกิ่ง เป็นไม้ล้มลุก สูงประมาณ 10 ซม. ใบเดี่ยว เรียงสลับ ใบที่โคนต้นกว้างประมาณ 1.5 ซม. ยาว 10 ซม. ใบส่วนบนสั้นกว่าใบที่โคนต้น ดอกช่อ ออกที่ปลายยอด รวมกันเป็นกระจุกแน่น ใบประดับย่อยค่อนข้างกลมซ้อนกัน สีเขียวอ่อน บางใส กลีบดอกสีฟ้าหรือม่วงอ่อน ร่วงง่าย ผลแห้ง แตกได้

สรรพคุณของ หญ้าปักกิ่ง : หญ้าปักกิ่งมีถิ่นกำเนิดในประเทศจีนตอนใต้ แถบสิบสองปันนา ในตำรายาจีนปรากฏชื่อพิชสกุลเดียวกันนี้ ใช้รักษาอาการเจ็บคอ และมะเร็ง ในประเทศไทยมีผู้นำหญ้าปักกิ่งมาใช้รักษาอาการของโรคมะเร็งหลายชนิด เช่นมะเร็งในลำคอ ตับ มดลูก ลำไส้ ผิวหนัง และเม็ดเลือด เป็นต้น โดยนำหญ้าปักกิ่ง 6 ต้น ล้างน้ำให้สะอาด ปั่นหรือตำให้แหลก เติมน้ำ 4 ช้อนโต๊ะ คั้นเอาแต่น้ำแบ่งครึ่ง ดื่ม 2 ครัง ก่อนอาหารเช้าครึ่งชั่วโมง และก่อนนอน หญ้าปักกิ่งไม่มีพิษเฉียบพลัน และพิษกิ่งเรื้อรังในหนูขาว เป็นสมุนไพรที่มีศักยภาพ ในการรักษาโรคมะเร็ง ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาวิจัย


เหงือกปลาหมอดอกม่วง

เหงือกปลาหมอดอกม่วง

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Sea Holly, Acanthus ilicifolius Linn.
ชื่อวงศ์ : ACANTHACEAE
ชื่ออื่น : แก้มหมอเล, จะเกร็ง, อีเกร็ง, เหงือกปลาหมอน้ำเงิน

รูปลักษณะ : เหงือกปลาหมอดอกม่วง เป็นไม้พุ่ม สูง 0.5-1.0 เมตร พบตามป่าชายเลน และบริเวณน้ำกร่อย ชนิดดอกขาวพบในภาคกลาง และภาคตะวันออก ส่วนชนิดดอกม่วงพบทางภาคใต้ ตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไป ลำต้นกลมเรียบ แข็ง สีเขียวแกมเทา มักมีหนามตามข้อๆ ละหนาม ใบเดี่ยว เรียงตรงข้าม รูปไข่ รูปวงรีหรือรูปขอบขนาน กว้าง 3-7 ซม. ยาว 6-20 ซม. ขอบใบเว้าหยักซี่ฟันห่างๆ ปลายซี่เป็นหนาม ผิวใบเรียบเป็นมัน เนื้อใบเหนียวแข็ง ดอกช่อ ออกที่ปลายกิ่ง ชนิดดอกขาวมีกลีบดอกสีขาว จุดประสีแดงหรือม่วงแดง ชนิดดอกม่วงมีกลีบดอกสีม่วงอมฟ้า มีแถบสีเหลืองอ่อนกลางกลีบ ผลเป็นฝัก รูปไข่หรือทรงกระบอก

สรรพคุณของ เหงือกปลาหมอดอกม่วง : ต้น, เมล็ด รักษาฝี แก้โรคน้ำเหลืองเสีย เมล็ดเป็นยาขับพยาธิ ใช้น้ำคั้นใบทาศีรษะ ช่วยบำรุงรักษารากผม ใบ เป็นยาอายุวัฒนะ โดยปรุงรวมกับพริกไทย ในอัตราส่วน 2:1 บดทำเป็นยาลูกกลอน กินครั้งละ 1-2 เม็ด



แพงพวยฝรั่ง

แพงพวยฝรั่ง

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Madagascar Periwinkle, West Indian Periwinkle, Catharanthus roseus (Linn.) Don
ชื่อวงศ์ : APOCYNACEAE
ชื่ออื่น : แพงพวยบก, นมอิน, ผักปอดบก

รูปลักษณะ : แพงพวยฝรั่ง เป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก แตกกิ่งก้าน สูง 25-120 ซม. ทุกส่วนมีน้ำยางสีขาว ใบเดี่ยว เรียงตรงข้าม รูปขอบขนาน หรือรูปขอบขนานแกมไข่กลับ กว้าง 1.5 -3 ซม. ยาว 3-7 ซม. ผิวใบสีเขียวเข้มเป็นมัน ดอกช่อ ออกเป็นกระจุกที่ซอกใบ 1-3 ดอก กลีบดอกสีขาว สีชมพูหรือสีม่วง เชื่อมติดกันเป็นหลอดยาว แลายแยกเป็น 5 กลีบ ผลแห้ง แตกได้ตะเข็บเดียว รูปทรงกระบอกยาว เมล็ดสีดำ

สรรพคุณของ แพงพวยฝรั่ง : ต้น ใช้ทั้งต้นสกัดได้แอลคาลอยด์ Vincristine และ Vinblastine ซึ่งนำมาทำให้บริสุทธิ์ และใช้ในรูปยาฉีด รักษาคนไข้มะเร็งบางชนิด เช่น มะเร็งเม็ดเลือด เป็นต้น


สมุนไพรต่างๆ


รายชื่อพืชสมุนไพรทั้งหมดในหมวดสมุนไพรแก้มะเร็ง

กระเบา กระเบาน้ำ กระเบาเบ้าแข็ง กระเบาใหญ่ กาหลง เบา ข่อย กักไม้ฝอย ส้มพอ ทองพันชั่ง ทองคันชั่ง หญ้ามันไก่ พญาสัตบรรณ สัตบรรณ ตีนเป็ด ตีนเป็ดขาว ชบา ยางขาว หัสบรรณ ราชดัด กระดัด ฉะดัด กาจับหลัก เท้ายายม่อมน้อย มะดีความ ดีคน พญาดาบหัก สะบ้าลิง กระเจี๊ยบ หมามุ้ย หญ้าปักกิ่ง เหงือกปลาหมอดอกม่วง แก้มหมอเล จะเกร็ง อีเกร็ง เหงือกปลาหมอน้ำเงิน แพงพวยฝรั่ง แพงพวยบก นมอิน ผักปอดบก



7 ความคิดเห็น:

  1. น่าจะมีหลายๆบทความนะครับ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. เดียวจะแก้ไขคับปมๆๆขอบคุณมากคับที่มาโพสตช่วยบอกเพือนด้วยนะคับ

      ลบ
  2. พืชใกล้ตัวเราก็มีประโยชน์มากมายนะคะ

    ตอบลบ
  3. เนื้อหาสาระดีนะค่ะ
    เป็นเรื่องที่น่าสนใจมากค่ะ

    ตอบลบ
  4. สมุนไพรไทยของเราก็มีประโยชน์มากในทุกด้านเลยน่ะค่ะ

    ตอบลบ
  5. ดีค่ะ ทำให้รู้เกี่ยวกับ พืชชนิดต่างๆได้ดี ค่ะ

    ตอบลบ
  6. ดีมากค่ะ
    มีความรู้เกี่ยวกับการนำพืชสมุนไพรมาใช้ประโยชน์มากขึ้น

    ตอบลบ